อัปเดตเหตุการณ์บ็อกซ์สถานที่ทำงานอเมริกาในอาทิตย์นี้กันเหมือนปกติ แน่ๆว่าความเรืองรองก็ยังคงเป็นของตำนานแพทย์แปลกที่ยังรั้งบัลลังก์เอาไว้ได้อย่างแน่นแฟ้น
น่าจะเป็นเพราะเหตุว่าโปรแกรมหนังเข้าฉายใหม่ยังไม่มีเรื่องไหนมาประมือได้ จนกระทั่งใกล้จะถึงสุดสัปดาห์ที่จะถึงนี้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวก็นับว่ายังคงเป็นตอนๆเวลาโกยของมาร์เวลโดยตลอด ได้คิดบัญชีไปได้ยาวๆแบบไม่มีคู่แข่งขัน แม้กระนั้นหนังใหม่ที่เพิ่งจะออกตัวเรื่องหนึ่งในวีคนี้ ก็ทำผลออกมาน่าพึงพอใจเบาๆ
ก็ยังยึดตำแหน่งแชมป์เป็นอาทิตย์ที่ 3 สำหรับหนังเรื่องปัจจุบันของมาร์เวล Doctor Strange in the Multiverse of Madness คิดเงินไปเพิ่มเติมอีก 31.6 ล้านเหรียญ ลดน้อยลงไปจากวีคก่อนราว 49% โดยที่หนังยังคงครอบครองรอบและก็โรงฉายสูงที่สุดในอเมิรกาตลอดไปรวมทั้งยังไม่มีอะไรเปลี่ยน ผลปัจจุบันในบ้านกำเนิดก็โกยไปได้กว่า 342 ล้านเหรียญ ตลอดเวลาจากการออกฉาย 17 วันที่ผ่านมา
แล้วก็เมื่อนำไปรวมกับรายได้ในตลาดต่างชาติที่หนังทำไปได้ 461 ล้านเหรียญ ก็พอกพูนรายได้ทั้งโลกของภาคต่อแพทย์แปลกประเด็นนี้ทะยานไปสัมผัสที่ 800 ล้านเหรียญ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ และก็ถ้าเกิดไม่มีอะไรเปลี่ยน แพทย์แปลกก็คงจะสะกดรอย Spider Man No Way Home เป็นหนังทำเงินสัมผัสพันล้านเหรียญ เกิดเรื่องที่ 2 ในสมัยวัววิดครองบ้านครองเมือง รวมทั้งยังเกิดเรื่องที่ยังไม่จังหวะได้เปิดตลาดฉายที่จีนและก็รัสเซียแบบเดียวกันด้วย
เป็นโปรแกรมหนังเข้าใหม่ที่ทำคำตอบก้าวหน้าที่สุดในวีคนี้เป็น Downton Abbey: A New Era หนังดราม่าพีเรียดภาคต่อ ที่คนประเทศไทยบางครั้งอาจจะไม่ค่อยคุ้นแล้วก็อินกันมากแค่ไหน แม้ว่าจะออกมาเป็นภาค 2 และก็ตาม โดยหนังพึ่งออกตัวฉายในอเมริกา เปิดตัวได้ในชั้นที่ 2 กับรายได้ถูกใจที่ 16 ล้านเหรียญ จาก 3,820 โรงฉายทั้งประเทศ หรือคิดอัตรารายได้เฉลี่ยต่อโรงอยู่ที่ประมาณ4 พันเหรียญ
ภาคต่อของหนังผู้ดีประเด็นนี้ยังคงได้รับกระแสคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ดีและก็เสียงชื่นชอบจากผู้ชมอีกเหมือนปกติ ถึงแม้ว่าภาคนี้จะใช้ทุนสร้าง 40 ล้านเหรียญ มากขึ้นเป็นเท่าตัวจากภาคแรก เพราะว่าค่าใช้สอยที่เกิดขึ้นมาจากเหตุการณ์วัววิด-19 แต่ว่าในตอนนี้หนังก็โกยเงินทั้งโลกเข้ากระเป๋าไปได้แล้วกว่า 51.7 ล้านเหรียญ ภายหลังที่หนังเปิดตัวฉายที่ฝั่งอังกฤษ มาตั้งแต่สิ้นเดือนเดือนเมษายนก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แล้วก็ทะยอยฉายในหลายๆประเทศทั้งโลกแล้วด้วย
สำหรับ Downton Abbey ภาคแรกนั้น เคยเปิดตัวในอเมริกาไว้ภายในปี 2019 กับรายได้ 31 ล้านเหรียญ แล้วก็ปิดโปรแกรมฉายไปด้วยเงินแทบร้อยล้านที่ 96 ล้านเหรียญ โดยสามารถโกยเงินไปได้ออกจะมากมายทั่วทั้งโลกถึง 192 ล้านเหรียญ ก็เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้หนังได้ไฟเขียวสร้างภาคต่อออกมา และก็จะต้องมาคำตอบกันต่อว่าต่อขานวัววิด-19 จะทำให้เกิดผลกระทบมากมายน้อยเพียงแค่หนังกับรายได้ของหนังภาคนี้
ยังมีอีกหนึ่งหนังใหม่ที่เปิดตัวอีกประเด็นอาทิตย์นี้ มันก็คือ Men หนังเขย่าขวัญสั่นประสาทสุดอินดี้จากค่าย A24 ที่เปิดตัวได้ในชั้นที่ 5 ของตาราง กับรายได้ 3.3 ล้านเหรียญ จาก 2,212 โรงฉายทั่วทั้งประเทศ หรือคิดเป็นรายได้เฉลี่ยต่อโรงราว 1,400 เหรียญ ที่นับว่าเป็นจำนวนเปิดตัวที่น้อยกว่าที่สตูดิโอหนังคาดเดาเอาไว้นิดนึง
Men เปลี่ยนเป็นหนังเรื่องปัจจุบันจาก A24 ที่ได้กระแสตอบรับจากนักวิพากษ์วิจารณ์รวมทั้งผู้ชมที่แตกคอกันออกเป็นเสี่ยงๆเพราะว่าบนเว็บ Rotten Tomatoes พบว่ามีนักวิภาควิจารณ์พอใจหนังประเด็นนี้สูงถึง 76% ที่จัดว่าอยู่ในระดับที่น่าพึงพอใจทีเดียว แม้กระนั้นในทางตรงกันข้ามพบว่าผู้ชมรังเกียจหัวข้อนี้มากมาย เพราะว่าเรตติ้งจาก CinemaScore ที่ประเมินผลตรวจสอบจากหน้าโรงภาพยนต์ พบว่าผู้ชมให้เกรดหนังประเด็นนี้ออกจะเลวถึง D+ อย่างยิ่งจริงๆ
และก็สุดสัปดาห์นี้ ค่าย A24 ก็ยังได้จุดดอกไม้ไฟสังสรรค์ชัยกับจุดสำคัญของซือพี่สาว เนื่องจาก Everything Everywhere All At Once ที่ทำเงินเพิ่มไปอีก 3.1 ล้านเหรียญ ต่ำลงไปแค่เพียง 6% แค่นั้น ไปช่วยดีขึ้นรายได้รวมในอเมริกาให้ขยับไปอยู่ที่ 52.2 ล้านเหรียญ ขึ้นแท่นเปลี่ยนเป็นหนังที่ทำเงินรายได้สูงสุดชั่วนิจนิรันดร์ของค่ายนี้ ตั้งแต่แมื่อเปิดผลิตภาพยนตร์มาเป็นทศวรรษอย่างเป็นทางการ
อาทิตย์หน้าก็ได้ขณะที่แพทย์แปลกต้องเสื่อมมนต์ขลังลงไปแล้ว ด้วยเหตุว่าการกลับมาของ มาเวอร์ริค นักบินชายหนุ่มในตำนาน ที่คัมแบ็กคืนหน้าจอให้รอบ 36 ปี จะมาเขย่าบัลลังก์ใน Top Gun Maverick ที่คาดว่าน่าจะเปิดได้รุนแรงพอได้ รวมทั้งยังตามมาด้วยหนังการ์ตูนขบขันที่สืบต่อการบรรลุเป้าหมายจากสิตคอมการ์ตูนของอเมริกัน อย่าง The Bob’s Burgers Movie ถึงเวลาฉายกวนโอ๊ยด้วยอีกประเด็น