ตอนปี 2021 เป็นปีที่ซีรีส์ ‘Squid Game’ (2021) หรือ ของ Netflix จริงๆครับผม เนื่องจากว่าแถมตัวซีรีส์เองยังพาให้เหล่าผู้แสดงเองก็ไปไกลด้วยเหมือนกัน
หนึ่งในนั้นก็หนีไม่พ้นคุณพี่ อีจองแจ (Lee Jung-jae) ผู้ครอบครองบท ‘ซองกีฮุน’ ผู้เล่นเลขลำดับ 456 ที่นอกเหนือจากการที่จะได้เข้าชิงรางวัลรางวัลระดับนานาชาติ ทั้งยังลูกโลกทองเอ่ย SAG Awards เอ่ย ก็ยังเป็นเหตุให้เขาเองได้มารับงานควบคุมภาพยนตร์เป็นครั้งแรกใน ‘Hunt’ หรือ ‘ล่าคนเลียนแบบคน’ ที่เขาทั้งยังควบคุม นำแสดง รวมทั้งร่วมปรับปรุงบท เตรียมงานอยู่นานถึง 4 ปี จนได้ออกมาเป็นหนังแนวแนวแอ็กชันดราม่าผสมทริลเลอร์ที่ประสมประสานหนังจังหวะแบบไล่ล่า โจรกรรม ลอบฆ่า กับพล็อตแนวการบ้านการเมือง (รวมทั้งแน่ๆว่าควรจะมีเงื่อนดราม่าประเทศเกาหลีเหนือ-ใต้) หัวข้อนี้นี่แหละครับผม
ตัวหนังสามารถสร้างกระแสยืนหนึ่งในบ้านกำเนิดประเทศเกาหลีใต้ ด้วยการตำหนิดชั้น 1 บ็อกซ์สำนักงานประเทศเกาหลีนาน 3 อาทิตย์ ทำสถิติขายตั๋วได้เกิน 4 ล้านใบ แถมตัวหนังยังได้ได้โอกาสเข้าฉายรอบ Out of Competition Midnight Screening ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ รายปี 2022 ด้วย แถมพี่ลีจองแจยังเชิญผู้แสดงเพื่อนพ้องใกล้กันที่เคยร่วมงานกับเขามาร่วมแสดงมากมาย ยกตัวอย่างก็ดังเช่นเฮีย ฮอซองแท (Heo Sung-tae) จาก ซีรีส์ ‘Squid Game’ รวมทั้ง จองอูซอง (Jung Woo-sung) เพื่อนสนิทที่เปิดบริษัทดูแลนักแสดงด้วยกันในชื่อ ‘Artist Company’ แล้วก็กลับมาร่วมงานแสดงด้วยกันเป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี
‘Hunt’ กล่าวถึงเรื่องราวของประเทศเกาหลีใต้ในตอนทศวรรษ 1980 ภายใต้การปกครองของรัฐบาลเผด็จการ เอามาสู่ความเครียดทุกภาคส่วน แถมจำเป็นต้องต่อกรกับศัตรูร่วมแผ่นดินอย่างประเทศเกาหลีเหนือที่เบาๆแทรกซึมเข้ามาเรื่อยพัคพยองโฮ (Lee Jung-jae) หัวหน้าหน่วยสืบราชการลับระหว่างชาติ (KCIA) แล้วก็ คิมจองโด (Jung Woo-sung) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองแห่งชาติ (NIS) จำต้องเอาดีเอาเด่น เพื่อไล่ล่าสายประเทศเกาหลีเหนือสมญานาม ‘ป่าลิม’ (Donglim) ที่คาดว่าเป็นหนอนบ่อนไส้แอบเพื่อลักลอบส่งข่าวสารกรองรวมทั้งความลับของรัฐบาลให้กับทางประเทศเกาหลีเหนือ ถึงแม้ทั้งสองจะเป็นม้ารับใช้รัฐบาลเผด็จการ แม้กระนั้นสองหัวหน้า สองอุดมการณ์มาอยู่ในถ้ำเดียวกัน ก็เลยจำต้องไล่ล่าไต่สวนคุ้นเคยเพื่อกล่าวหาคนใดกันแน่เป็นป่าลิม โดยมีชีวิตของผู้นำประเทศเกาหลีใต้ แล้วก็แผ่นดินแหลมประเทศเกาหลีเป็นพนัน
ถ้าหากจะให้ชี้แจงว่าพล็อตเรื่องของหนังหัวข้อนี้มันเป็นแบบไหน สำหรับนักเขียน หนังประเด็นนี้เป็น ‘Infernal Affairs’ (2002) หรือ ‘สองคนสองคม’ เวอร์ชันประเทศเกาหลีนั่นแหละขอรับ เนื่องจากว่าเค้าเรื่องนั้นเอ๋ยถึงเรื่องราวของคนสองผู้ที่
โคจรมาเจอะกันด้วย Conflict เดียวกัน ก็เลยนำมาซึ่งการก่อให้เกิด Conflict ระหว่างกันขึ้นมา และก็ลักษณะนิสัยแล้วก็สตอรีของแต่ละนักแสดงก็จะมีความเทาๆแล้วก็อุดมการณ์ที่ยึดมั่นกันคนละฝั่งฟาก จนกระทั่งยากที่จะแยกด้วยสายตาและก็ความรู้สึกผิวเผินว่าใครดีคนไหนกันแน่เลวทราม ซึ่งสำหรับหัวข้อนี้ก็เป็นแบบนั้นเลยครับผม
เพียงแต่ว่าสิ่งที่ต่างออกไปจากหนังประเด็นนั้นก็คงจะมีสองอย่างนะครับ เป็นตัวหนังนั้นถูกขับเคลื่อนด้วยแกนเรื่องแบบ Political Drama หรือดราม่าการบ้านการเมืองที่ตีวงล้อมแคบเล่าถึงสภาพการณ์เหตุบ้านการบ้านการเมืองในตอนรัฐบาลเผด็จการที่กำลังตึงเจียนแตก ถึงแม้ Disclaimer ที่มาจะพูดว่าเรื่องราว บุคคล สถานที่ อื่นๆอีกมากมาย เกิดเรื่องสมมุติ แต่ว่าหากเพียงพอมีความสามารถด้านประวัติศาสตร์ประเทศเกาหลีก็จะรู้ดีว่า ตัวหนังอ้างอิงมาจากเรื่องราวจริงหลายส่วน ทั้งยังเรื่องราวความวุ่นวายล้อมปราบผู้ประชุมเรียกร้องระบบประชาธิปไตยที่เมืองกวางจู (Gwangju Uprising) โดยการนำของนายพลชุนมองฮวาน (Chun Doo-hwan) ผู้นำรัฐบาลเผด็จการในปี 1980 การลอบฆ่าหัวหน้าชุนมองฮวานที่เมืองปิ้งกุ้ง ประเทศพม่า (ภรรยานมา) โดยสายประเทศเกาหลีเหนือในปี 1983 แล้วก็เรื่องราวที่นักบินประเทศเกาหลีเหนือ ใช้เรือบินไล่ส่งของรัสเซียบินล้ำเข้าน่านฟ้าประเทศเกาหลีใต้เฉย ก่อนดูหนัง ถ้าเกิดทำการบ้านเรื่องประวัติศาสตร์ อุดมการณ์ระบบประชาธิปไตย-เผด็จการ ความไม่ลงรอยกันประเทศเกาหลีเหนือ-ประเทศเกาหลีใต้สมัย 80’s มาก่อน คงจะทำให้มองบันเทิงใจขี้นอีกเล็กน้อยล่ะนะครับ