The Afterparty ซีรีส์ตลกขบขันสอบสวน ที่เล่าราวการสืบคดีการฆาตกรรมในงานกินเลี้ยงคืนสู่เหย้าของเหล่านักแสดงสุดวายป่วงกันทุกคน
เรื่องย่อ กรุ๊ปเพื่อนเก่ายุคไฮสคูลกลับมางานงานเลี้ยงคืนสู่เหย้านัดหมายพบปะกันอีกรอบ แม้กระนั้นและก็เกิดเหตุนักร้องผู้แสดงตามที่เป็นอดีตนิสิตเก่าตายแบบปัญหา โดยหลักฐานพื้นฐานพุ่งเป้าไปที่ “อนิก” ชายหนุ่มผิวดำที่เป็นคนท้ายที่สุดในห้องจุดเกิดเหตุกับเหยื่อ เขาก็เลยบากบั่นหาทางพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง โดยที่ยังต้องหาทางสานสโมสรกับสหายสาวในวัยศึกษาที่เขาแอบรักมาตลอดด้วย
รีวิว ซีรีส์สอบปากคำที่ดูอย่างกับว่าแนวขำขันไม่ตั้งใจจริง แม้กระนั้นข้อเท็จจริงเป็นซีรีส์ที่แท้จังกับเนื้อหาทุกสิ่งในแต่ละตอนมากมาย แม้กระนั้นด้วยความตลกขบขันของเรื่องทำให้หลายๆอย่างที่พรีเซนเทชั่นออกมาถูกละเลยไป ซึ่งแอบโชคร้ายมากมายที่เรื่องมานะจะเฮฮาประหลาดกันทุกตอนกระทั่งเหลือเกินหน่อย ซึ่งในหัวข้อนี้จะแบ่งเวลาให้แต่ละตอนเป็นการเล่าในงานงานเลี้ยงของแต่ละคนผ่านนักแสดง 7 คน จากทั้งผอง 8 ตอน ตอนสุดท้ายจะเป็นตอนเฉลยคำตอบเรื่องราวทั้งหมดทั้งปวง โดยถือจับจากเรื่องเล่าทั้งยัง 7 ตอนมาย้อนให้มองว่าผู้ใดกันแน่มีพิรุธที่ไหน รวมทั้งคนใดที่เล่าโป้ปดมดเท็จให้ตำรวจสายสืบฟัง ซึ่งพอเพียงเฉลยคำตอบในส่วนท้ายพวกเราถึงทราบดีว่าทุกในขณะที่เล่ามาทั้งผองเกี่ยวข้องกันทุกจุดจริงๆแบบซึ่งสามารถย้อนไปมองต่อฉากจับผิดตามได้เลย ซึ่งจุดนี้เป็นความแจ๋วของเรื่องที่คิดมาดี มีบทเฉลยคำตอบที่พอดี ชี้แจงได้ทั้งหมดทุกอย่าง พร้อมด้วยจบคดีในตัวเลยไม่มีค้างถัดไปฤดูกาลถัดไป
แต่ว่าสิ่งที่ประเด็นนี้มีปัญหานิดๆก็คือการที่พากเพียรทำให้เรื่องมองประหลาดในบางตอนมากมายไปหน่อย อย่างตอนของเพื่อนสนิทอนิกที่ฝันต้องการเป็นนักร้อง ปากคำของเขาก็เปลี่ยนเป็นการเล่าเรื่องแบบหนังเพลงไป เป็นอยู่ๆเรื่องก็ตัดให้ทั้งยังตอนเป็นหนังเพลงไปเลย ซึ่งจะว่าครีเอทให้สนุกสนานมันก็พอใช้ได้ แม้กระนั้นเป็นพอสมควรๆไปมันแปลงเป็นมีแม้กระนั้นน้ำมากมายไปหน่อย เนื่องจากเสียเวล่ำเวลาไปกับฉากร้องเสมือนพวกเรามานั่งดูฉากเต้นในหนังประเทศอินเดียติดๆกันอะไรแบบงั้น หรืออีกในเวลาที่เป็นนางเอกของเรื่องเล่าโดยตัดเรื่องเป็นการ์ตูนอนิเมชั่น เป็นพวกเรารู้เรื่องว่าคนสร้างต้องการครีเอทให้แต่ละตอนมีแนวการนำเสนอแปลกใหม่ แม้กระนั้นซึ่งมันแปลกเหลือเกิน รวมทั้งไม่สนุกอีกต่างหาก ยิ่งพอเพียงตัดอารมณ์จากการเล่าเรื่องธรรมดากลับไปอนิเมชั่นหยาบๆยิ่งทำให้มีความรู้สึกว่าแปลงเป็นขณะที่ห่วยแบบไม่ทราบจะมองไปเพราะเหตุใดเลย ซึ่งอะไรแบบงี้ล่ะที่ทำให้ซีรีส์ประเด็นนี้มองมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ว่าถ้าเกิดตัดพวกตอนแปลกๆแบบงี้ไป ในตอนที่เล่าราวตามธรรมดาก็นับว่าทำเป็นดีเลย ตอนมองพวกเราบางทีอาจจะเพียงแค่เพลิดเพลินๆกับเฮฮาบ้างพอควร แต่ว่าพอเพียงตอนสุดท้ายที่เรื่องราวทุกฉากสำคัญหมดทำให้เรื่องราวเหล่านี้มองแจ๋วขึ้นมาในทันที เพราะเหตุว่าเป็นผู้ชมเองที่ไม่ทันคิดตามทั้งที่เรื่องเกือบจะเฉลยคำตอบแบบจะๆให้มองเห็นตั้งแต่ตอนแรกอยู่แล้วว่าผู้ใดกันแน่เป็นฆาตกร